มาโคโตะ ชินไค เจ้าพ่อแอนิเมะโรแมนติคแฟนตาซีกลับมาแล้ว พร้อมกับพาคนดูไปออนทัวร์เจแปน ร่วมเดินทางไปกับตัวละครสไตล์ชินไค เรื่องมหัศจรรย์ และความรักของสองเราที่ก่อตัวระหว่างเดินทาง
ซุซุเมะ เด็กม.ปลายที่ได้พบต้องร่วมเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นกับ โชตะ เพื่อตามจับไดจิน แมวประหลาดที่เดินทางไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อปลดผนึกประตูวิญญาณ และนำมาซึ่งการล่มสลายของโลก การเดินทางเพื่อปิดผนึกประตูของซุซุเมะจึงเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้
Suzeme ยังคงเป็นงานในสไตล์ชินไคที่บรรดาติ่งคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครชายหนุ่มหญิงสาว ที่มีเหตุให้ต้องร่วมผจญภัยฝ่าอีเวนท์หายนะ พร้อมกับความรักที่ก่อตัวขึ้น กับงานด้านภาพที่เหมือนรายการท่องเที่ยว และดนตรีประกอบที่ ‘โดน’ เสมอ
ภายใต้หน้าหนังที่แทบจะ ‘ซ้ำเดิม’ เหมือนเคยผ่าน แต่ครั้งนี้ชินไคสอดแทรกความเป็นหนัง Road Movie เข้าไป ทำให้ตัวละครทั้งสองโดยเฉพาะซุซุเมะที่มีบาดแผลลึกในวัยเด็ก ค่อย ๆ เรียนรู้ชีวิต และพัฒนาความสัมพันธ์กับโชตะไปพร้อม ๆ กันในระหว่างเดินทาง โดยตลอดการเดินทาง เราจะเห็นความบอบช้ำของผู้คนจากการสูญเสียผ่านภารกิจปิดผนึกประตู ซึ่งน่าจะเป็นการอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นทั้งสึนามิและแผ่นดินไหว
หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจาก Your Name (หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ) จนทำให้ มาโคโตะ ชินไค กลายเป็นไอคอนของแอนิเมะโรแมนติคแฟนตาซี พอมาถึง Weathering with You (ฤดูฝัน ฉันมีเธอ) กลับกลายเป็นการเล่าซ้ำที่เล่นใหญ่จนล้น
แต่ชินไคก็กลับตัวทำให้ Suzume กลายเป็นงานที่ลงตัวกว่า และผสมสัดส่วนอื่นเข้าไปเพื่อให้มีความต่างจากเคย ๆ ซึ่งทำเมื่อถึงเวลาก็พาคนดูไปสู่จุดพีคพร้อมกับน้ำตาที่ซึมหรือร้องไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครอย่างถูกจังหวะ และลุ้นต่อไปว่าจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน แม้ว่าในที่สุดมันจะแอบซ้ำ Your Name ก็ตามที
งานด้านภาพยังคงไว้ใจได้ ยิ่งตอนนี้ทัวร์ญี่ปุ่นกำลังฮิตอาจทำให้หลายคนที่ดูจบ คงถามหาทัวร์ตามรอย Suzume อย่างไม่รอช้า พอ ๆ กับหลายคนคงอยากได้เก้าอี้โชตะสีเหลืองตัวเล็ก ๆ มาตั้งไว้ที่บ้านสักตัว
เพลงประกอบ Suzume no Tojimari ที่ติดหูทันทีตั้งแต่เสียงฮึมเสมือนล่องลอยไปกับสายลม และขาดไม่ได้คือ เพลงโมโลดี้สวย ๆ โดนตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก Tears of Suzume และ Kanata Haluka จาก REDWIMPS
ถึงจะซ้ำแนวทางเดิม แต่เอาเป็นว่าสำหรับผม Suzume ผมชอบและอยากดูซ้ำ รู้สึกชอบมากกว่า Weathering with You แต่ไม่พีคในพีคเท่ากับ Your Name ที่สำคัญหนังมันทำให้ผมน้ำตาซึมได้ในตอนท้ายแบบไม่รู้ตัว
หนังใช้ ‘ประตู’ แทนสัญลักษณ์ เมื่อซุซุเมะเผลอไปเปิดประตูบานหนึ่ง การเดินทางก็เริ่มขึ้น การเดินทางได้พบเจอผู้คนทำให้เข้าใจโลกมากขึ้น คนเราทุกคนก็ต้องมีช่วงเวลาที่ต้องเปิดประตูไปสู่โลกที่เราไม่คุ้นชิน
ประตู
เมื่อเราได้เปิดออก ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือบังเอิญ
เราก็ต้องก้าวข้ามไปเพื่อเรียนรู้ ยอมรับ และ เข้าใจในสิ่งที่เป็นไป
ไม่แน่ว่าเราอาจพบ สถานที่สักแห่ง หรือ ใครสักคน
รอคอยเราอยู่ที่อีกฟากฝั่งของประตูบานนั้น
Directed: Makoto Shinkai/Starring (Voice): Nanoka Hara, Kokuto Matsumura, Eri Fukatsu
ขอบคุณที่มาข้อมูล/ภาพประกอบ: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Major Cineplex, Warner Bros. Thailand